อังกฤษพ่ายดวลโทษ “สิงโตคำราม” อังกฤษ ยังจำต้องคอยแชมป์รายการใหญ่ถัดไป เมื่อเขาปราชัยตอนดวลจุดลูกโทษให้ “อัซซูรี่” อิตาลี 3-2 

อังกฤษพ่ายดวลโทษ “สิงโตคำราม” อังกฤษยังจำต้องคอยแชมป์รายการใหญ่ถัดไป เมื่อพวกเขาปราชัยตอนดวลจุดลูกโทษให้ “อัซซูรี่” อิตาลี3-2 ข้างหลังเสมอในเวลา 90 นาทีกัน 1-1 ส่งแชมป์ยูโรสมัยสองให้กองทัพ “อัซซูรี่” ในรอบ 53 ปี

ตั้งแต่แมื่อครั้งปัจจุบันเมื่อปี 1968 สำหรับการชิงชัยศึกฟุตบอลยูโร 2020 นัดหมายชิงแชมป์ คืนวันอาทิตย์ที่ 11 เดือนกรกฎาคมก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา สนาม : เวมบลีย์ สเตเดี้ยม, ลอนดอน (อังกฤษ)

ศึกฟุตบอลยูโร 2020 นัดหมายชิงแชมป์ คืนวันอาทิตย์ที่ 11 เดือนกรกฎาคมก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา “สิงโตขู่คำราม” อังกฤษทะลุผ่านเข้ารอบชิงได้เป็นหนแรกรายการนี้ แกเร็ธ เซาธ์เกต เอาจริงเอาจังอย่างมากมาย

เพื่อนำทีมเป็นแชมป์สมัยแรก ใส่เกมรับแน่นหนาถึงห้าคน ทีเด็ดดินแดนหน้า “เคน-สเตอร์ลิง” ช่วยเหลือกันลงลุย “อัซซูรี่” อิตาลีที่คาดหวังการสังสรรค์โทรฟี่ใบนี้เป็นสมัยลำดับที่สอง ตั้งแต่แมื่อคราวปัจจุบันเมื่อปี 1968

โรแบร์โต้ มันชินี่ ขนสตาร์ทั้ง “อิมโมบิเล่-อินซินเญ่” นำกองทัพชิงความเป้นจ้าวยุโรปครั้งนี้ เกมเริ่มเพียงแต่สองนาที ลุค ชอว์ ขึ้นเกมมาริมทางซ้ายดินแดนข้างหลัง ไหลเข้ากึ่งกลางให้ แฮร์รี่ เคน เปิดบอลยาวมาที่ คีแรน ทริปเปียร์ ดันสูงมาฝั่งขวา

หยอดบอลผ่านย้อนเข้าจุดโทษ 6 หลาก่อนเป็น ฟูลแบ็กแมนยูดอดมายิงยัดตาข่ายทางเสาทางด้านซ้าย อังกฤษนำ 1-0 ลอเรนโซ่ อินสินเญ่ ทดลองปั่นบอลระยะ 20 หลาหน้ากรอบจุดโทษ บอลเลี้ยวหนีกำแพงผู้เล่นสิงโตขู่คำราม

แต่ว่าสูงเกินผ่านคานออกข้างหลัง ในนาทีที่ 7 ผ่านมาถึงนาทีที่ 35 นิโคโล่ บาเรลล่า จ่ายบอลฝากให้ เฟเดริโก้ เคียซ่า ฉุดกระชากบอลหนี เดแคลน ไรซ์ กินระยะมาหน้ากรอบจุดโทษ ส่องไกลบอลเรียดออกข้างกรอบประตูทางด้านขวาแบบมีลุ้น

อังกฤษพ่ายดวลโทษ ตอนทดเจ็บนาที 45+1 โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่ โยนบอลเข้าจุดโทษ ชิโร่ อิมโมบิเล่ เกี่ยวข้องตัวยิงติดบล็อก จอห์น สโตนส์ บอลไม่ไปไหนมาหา จอร์จินโญ่ จ่ายตั้งไปที่ มาร์โก แวร์รัตติ วางเท้ายิงอีกทีแม้กระนั้นบอลไม่มีน้ำหนักเข้ามือ บ้านผลบอลย้อนหลัง

อังกฤษพ่ายดวลโทษ

เสมอในเวลา 90 นาทีกัน 1-1 ส่งแชมป์ยูโรสมัยสองให้กองทัพ “อัซซูรี่” ในรอบ 53ปี

อังกฤษพ่ายดวลโทษ จอร์แดน พิคฟอร์ด หมดครึ่งแรก อังกฤษนำก่อน 1-0 ราฮีม สเตอร์ลิง เข้าบอลพลาดเสียฟาวล์ ผู้ตัดสินให้ฟรีคิกหน้ากรอบจุดโทษแก่อิตาลี แต่ ลอเรนโซ่ อินซินเญ่ บรรจงยิงไม่ดีพอเพียงบอลยังลอยผ่านคานอาทิเช่นเดิม

ตอนเริ่มหกนาทีช่วงหลัง อัซซูรี่น่าตีคืนนาทีที่ 57 ลอเรนโซ่ อินซินเญ่ โยกมาทางขวามือรับบอลแล้วส่งไปฝั่งซ้ายที่ เฟเดริโก้ เคียซ่า ยิงอัดแนวรับผู้ดี บอลกระฉอกเข้าทางกองกลางนาโปลีที่ตามเก็บบอลหลุดเข้าซัดระยะ 6 หลาทางเสาแรก

แต่ว่า จอร์แดน พิคฟอร์ด ยืนปิดมุมทุบทิ้งออกมาทัน เฟเดริโก้ เคียซ่า ลากบอลลุยมากมายลางจุดโทษ หาเหลี่ยมยิงอ้อมแนวรับอังกฤษบอลเลี้ยวแหวกจะเข้าประตู แต่ว่านายทวารสิงโตขู่คำรามทิ้งตัวปัดได้อย่างยอดเยี่ยม นาทีที่ 62

อีกสองนาทีถัดมา คีแรน ทริปเปียร์ ครอสบอลทางซ้าย จอห์น สโตนส์ เทคตัวโหม่งบอลห้อยคงจะออกข้างหลัง แต่ จานลุยจิ ดอนทุ่งนารุมม่า ยื่นมือแปะพ้นกรอบออกไปเพื่อให้เกิดความปลอดภัย

อิตาลีเอาจนได้ 1-1 นาที 67 โดมินิโก้ เบร์ราดี้ เปิดบอลเตะมุมทางด้านขวา ไบรอัน คริสตันเต้ โฉบมาโหม่งบอลสะบัดเลยมาหน้าประตู มาร์โก แวร์รัตติ กระแทกติดมือ จอร์แดน พิคฟอร์ด ที่เซฟบอลชนเสาทางด้านซ้าย

รวมทั้งเป็น เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ ซ้ำบอลระยะเผาขนตุงประตู ก่อนจบ 90 นาที ยังเท่ากัน จำต้องขยายเวลาอีก 30 นาที สิงโตได้ลุ้นขยายเวลานาทีที่ 97 คัลวิน ฟิลลิปส์ ยืนพักอกเอาบอลลงหน้ากรอบจุดโทษ

เจ้าตัวซัดสุดแรงเกิดบอลผ่านผู้เล่นทั้งคู่ทีม พุ่งออกข้างหลังไปโชคร้าย อัซซูรี่พลาดจังหวะสำคัญ เฟเดริโก้ แบร์นาร์เดสคี่ พนันบอลมาที่ เอแมร์ชอน เลี้ยงบอลล็อกหลบลำแข้งอังกฤษทางซ้ายในจุดโทษ ก่อนวางบอลหวังให้เพื่อนร่วมทีมเข้าชาร์จ

แต่ว่าเป็น จอร์แดน พิคฟอร์ด ออกมาเร็วดักตัดบอลได้ นาทีที่ 103 อันเดรีย เบล็อตติ ใช้ตัวบังจนถึง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ จำเป็นต้องเตะทำฟาวล์ เรียกฟรีคิกระยะ 25 หลา เฟเดริโก้ แบร์นาร์เดสคี่ ซัดบอลเข้าพบกรอบ

จอร์แดน พิคฟอร์ด ยืนรับบอลหกก่อนเจ้าตัวตะปบทัน นาทีที่ 107 หมดเวลา 120 ผลยังอย่างเดิมเสมอ 1-1 จำต้องวินิจฉัยโดยการดวลจุดลูกโทษ เข้าตอนดวลจุดลูกโทษ คนแรก – อิตาลีได้ยิงก่อน

แล้วก็เป็น โดมินิโก้ เบร์ราดี้ ซัดให้ทีมขึ้นนำ 1-0 ทว่า แฮร์รี่ เคน ก็มาซัดให้อังกฤษ ไล่ตีเสมอ 1-1 คนสอง – แฟนอังกฤษเฮลั่น! เมื่อ อันเดรีย เบล็อตติ ยิงไปติดเซฟ พิคฟอร์ดก่อนที่จะ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ จะซัดให้ “สิงโตคำราม” แซง 2-1

ผู้ที่สาม – เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ ผู้กระทำประตูตีเสมอในเวลา มาซัดให้ อิตาลีไล่มา 2-2 ก่อนที่จะ อังกฤษจะมาพลาดจุดลูกโทษบ้างข้างหลัง มาร์คัส แรชฟอร์ด ยิงไปชนเสาออกไปอย่างน่าผิดหวัง

ผู้ที่สี่ – เฟเดริโก้ แบร์นาร์เดสคี่ ออกมาซัดให้ อิตาลีขึ้นนำ 3-2 ก่อนที่จะอังกฤษ จะมาพลาดอีกครั้งข้างหลัง เจดอน ซานโช่ ยิงไปติดมือ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ผู้ที่ห้า – อิตาลีพลาดเหมือนกันข้างหลัง จอร์จินโญ่ ยิงไปติดเซฟของ พิคฟอร์ด

แต่แฟนผู้ดีจะต้องเงียบเชียบทั้งยังเวมบลี่ย์ข้างหลัง บูคาโย่ ซาก้า ยิงจุดลูกโทษพลาดซัดไปติดเซฟของ ดอนนารุมม่า ก่อนพา อิตาลีเอาชนะในตอนดวลจุดลูกโทษ 3-2 ผงาดแชมป์ยูโรครั้งลำดับที่สองได้สำเร็จ

“สิงโตคำราม” ฝันสลายชวดแชมป์ยูโรยุคแรกข้างหลัง อิตาลีชนะจุดลูกโทษซิวแชมป์สมัยที่ 2 ได้สำเร็จ รายชื่อผู้เล่นที่ลงในสนาม อิตาลี (4-3-3) : จานลุยจิ ดอนนารุมม่า,โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่,เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่,

จอร์โจ้ คิเอลลินี่,เอแมร์ซอน (อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ น.118),นิโคโล่ บาเรลล่า (ไบรอัน คริสตันเต้ น.54),จอร์จินโญ่,มาร์โก แวร์รัตติ (มานูเอล โลคาเตลลี่ น.96),เฟเดริโก้ เคียซ่า (เฟเดริโก้ แบร์นาร์เดสคี่ น.86),

ชิโร่ อิมโมบิเล่ (โดมินิโก้ เบร์ราดี้ น.55), ลอเรนโซ่ อินซินเญ่ (อันเดรีย เบล็อตติ น.91) อังกฤษ (5-2-3) : จอร์แดน พิคฟอร์ด,คีแรน ทริปเปียร์ (บูกาโย่ ซาก้า น.70),ไคล์ วอล์คเกอร์ (เจดอน ซานโช่ น.120),จอห์น สโตนส์,

อังกฤษพ่ายดวลโทษ แฮร์รี่ แม็กไกวร์,ลุค ชอว์,คัลวิน ฟิลลิปส์,เดแคลน ไรซ์ (จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น.74-มาร์คัส แรซฟอร์ด น.120),เมสัน เม้าน์ (แจ็ค กรีลิช น.99),แฮร์รี่ เคน,ราฮีม สเตอร์ลิง ผู้ตัดสิน : บียอร์น ไคเปอร์ส (ฮอลแลนด์) โหดขนาดไหน